หน้าเว็บ

วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 19, 2560

ต้นตอของปัญหา..พืชเกือบทุกชนิดจะมีใบจุดไหม้ราสนิม ราน้ำค้าง
เกือบ99%ในประเทศไทยในแปลงเกษตรกรรม พืชเกือบทุกชนิดจะมีใบจุดไหม้ราสนิม ราน้ำค้าง กันแทบจะทุกที่ ประเด็นคือเชื้อราแน่นอน แล้วสาเหตุทำไมมันถึงเกิด อย่าลืมว่าถ้าใบพืชไม่เป็นแผลหรือมีสารเคมีมาทำลายเซลล์ของมัน มันจะไม่เป็นโรคด้วยการแสดงอาการทางใบอย่างเด็ดขาด เมื่อเซลล์ตายย่อมีเชื้อจุลินทรีย์เข้าไปกินเซลล์ที่ตายและแน่นอนภายในไม่กี่ชม.เชื้อราก็ตามมา......เหมือนจากการทดลองของเราที่ผมให้คุณเอาข้าวไปตากแดดและเก็บไว้ในร่ม เราจะพบเชื้อราทั้งในร่มหรือในกลางแจ้งเมื่อกลิ่นบูดเริ่มหมดลง เชื้อราไม่มีหน้าที่มาย่อยสลายใบพืชแต่มันมากินเชื้ออีกชนิดหนึ่เท่านั้น เมื่อเชื้อแรกตายลงเชื้อราก็หยุดการขยายเชื้อและทิ้งร่องรอยเอาไว้ในใบของพืช แต่ผ่านพ้นไปอีกวันก็พบว่าใบพืชมีแผลไหม้และมีจุดเพิ่มขึ้นมากอีก...อะไรคือสาเหตุให้มันเป็นแบบนี้
กว่า40ปีที่ปุ๋ยยูเรียมากกว่า1ล้านตันได้ถูกนำมาใช้ในภาคการเกษตร อย่าลืมว่าสารพวกนี้เป็นตัวระเหยขึ้นบนชั้นบรรยากาศที่ไม่มีวันหมดนะครับ
เวียดนามเคยเจอพิษของฝนกรดจากอาวุธที่มีส่วนผสมของยูเรียที่ใช้ผลิตเป็นระเบิดของอเมริกา ปัจจุบันพื้นที่ตรงนั้นไม่สามารถปลูกพืชได้เลย
ในหลายๆประเทศเขาจึงควบคุมปุ๋ยยูเรียกันอย่างเคร่งครัด
ในประเทศของเราถูกปล่อยปะละเลยกันมานาน ไม่ต้องรอให้ฝนตกลงมาหรอก แค่น้ำหมอกลงใบพืชก็มีแผลและราพวกนี้ขึ้นกันอยู่แล้ว ยูเรียที่ปะปนมาลงมาจากละอองน้ำ คือตัวที่สร้างปัญหาให้พืชกันทั้งประเทศ ต่อให้คุณไปสรรหายามารักษามันก็ไม่มีวันหาย เพราะตราบใดสารยูเรียยังลอยปะปนอยู่ในชั้นบรรยากาศอยู่ พืชก็ยังเป็นโรคอยู่ต่อไป ถามว่าเราซีเรียสไหม ตอบเลยว่าอย่าไปทุกข์ใจกับมัน ตราบใดพืชยังได้สารอาหารที่ครบถ้วนอยู่มันก็มีหน้าที่สร้างผลผลิตให้เราเหมือนเดิม
ถ้าอยากให้โรคนี้หมดไป ก็เลิกใช้ปุ๋ยยูเรียกันทั้งหมด ที่เหลือในชั้นบรรยากาศก็ปล่อยให้ลมพัดพาพวกมันไปตกที่ทะเลให้หมด ไม่ใช่มาเติมสารยูเรียให้มันอยู่ทุกวัน มันก็ไม่มีวันหมด โรคใบจุดๆและเชื้อราก็ยังเกิดอยู่เหมือนเดิม และสารพัดยาของนายทุนก็ยังขายดีกันอยู่เหมือนเดิม.
เดชา นฤนารท.

ไม่มีความคิดเห็น: