ว่าด้วยเรื่อง ทัศคนติส่วนตัวของการพึ่งตนเองแบบง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
โดย:
ปิติพงศ์ อ่อนสำลี
ขออนุญาตรายงานตัวและนำเสนอทัศนคติส่วนตัวนะครับ ในเรื่องการพึ่งตนเองแบบง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
ก่อนหน้านี้ผมทุ่มเทเวลาให้กับน้ำหมักชีวภาพมานานนับสิบปี หลังจากได้พบจุลินทรีย์ดีไลท์แล้ว ทำให้ผมมีความสุขมากกับการทดลอง และได้ผลสรุปว่าจุลินทรีย์ดีไลท์ดีที่สุดจริงๆ ทำให้ผมประหยัดเวลาในการหมักเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงกว่าน้ำหมักชีวภาพทุกๆ ตัวของผมมากๆ ขอบคุณอาจารย์ครับที่ให้ความฝัน แรงบรรดาลใจ และเป้าหมายของผมเป็นจริงได้เร็วขึ้น
*******************************************
ในอดีตมนุษย์ต้องการ เพียงปัจจัย 4 คือ อาหาร บ้าน ผ้า และยา ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่ในปัจจุบันตามความเป็นจริงของชีวิต มนุษย์ต้องการหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่านั้น เพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างสะดวกสบาย คือต้องมีรถยนต์ มีโทรศัพท์มือถือ มีเครื่องประดับ มีเครื่องสำอางค์ น้ำหอม (ซึ่งคนใส่ไม่ได้กลิ่น คนได้กลิ่นไม่ได้ใส่) และมีเงิน ทอง ไว้จับจ่ายใช้สอยเพื่อความสบายใจและเพิ่มความมั่นคงในชีวิต ซึ่งเงิน ทอง ที่ดิน ทรัพย์สมบัติ จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของความเป็นคนในสังคมที่กำหนดขึ้น เพียงเช่นนั้นหรือ ?
แต่ในความเชื่อ ในความศรัทธา ผมเชื่อว่าเงินทองสำคัญ แต่ไม่ได้สำคัญที่สุด เปรียบแค่เพียงสิ่งที่คนกำหนดขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นานับประการทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็น โดยส่วนตัวแล้ว ผมจะเน้นย้ำเสมอกับตัวเองไว้ว่า "ถ้าอยากรู้สึกว่ารวย จงอย่านับแต่เงินและทรัพย์สินที่มี จงนับสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข ที่เงินไม่สามารถซื้อหาได้เข้าไปรวมด้วย" ดังนี้..............
อาทิเช่น สุขภาพของร่างกาย จิตใจ ความคิด ความสุข จิตวิญญาณ ครอบครัว ความสามารถในการผลิตอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเลี้ยงครอบครัว ผลิตยารักษาโรคจากสมุนไพรไทย สร้างบ้านจากทรัพย์กรธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น ใช้เครื่องนุ่งห่มที่เรียบง่ายไม่ตามแฟชั่นของใคร รวมถึง ความมั่นคงที่ไม่ขึ้นอยู่กับเงิน แต่อยู่ที่ความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ความเชื่อมั่น (ไม่กลัวและไม่อาย ต่อใครและสิ่งใด) ความศรัทธา การมีเพื่อน มีสังคม มีชุมชนที่ปลอดภัยจากยาเสพติดและอาชญากรรม และอื่นๆ อีกมากมายที่มีคุณค่ามากกว่าทรัพย์สินเงินทอง
ในการพึ่งตนเองในชีวิตประจำวันนั้น พยายามคิดและตรึกตรองใช้จ่าย ใช้เงินเป็นเพียงเครื่องมือแลกเปลี่ยนในสิ่งที่ต้องการ และจำเป็น กับชีวิตจริงๆ เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น . . .
1. เริ่มต้นจากการไม่ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ (บุคคลต้นแบบ(โจน จันได) สอนผมว่า "เสื้อผ้ากำลังจะล้นโลกอยู่แล้วในเวลานี้ ถึงแม้จะปิดโรงงานทอผ้าทั้งหมดทั่วโลก แล้วใช้เฉพาะเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้ว อีก 50 ปี ก็ยังใช้ไม่หมด คนเมืองบางคนมีห้องสำหรับเก็บเสื้อผ้าอย่างเดียวเป็นห้องๆ เลย
2. หันหลังให้ผลิตภัณฑ์เคมี ถ้าจำเป็นต้องใช้ ก็ให้ใช้ปริมาณน้อยที่สุด เพื่อรักษาสุขภาพ รักษาสิ่งแวดล้อม เป็นการ คืนชีวิตในแผ่นดิน น้ำ ฟ้า ป่า อากาศ แล้วหันหน้ามาเปิดใจให้กับสมุนไพรไทย
3. ทำผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนไว้ใช้เอง
อาทิเช่น ยาสระผมอัญชัญ / มะกรูด / ว่านหางจระเข้ / ย่านาง
สบู่เหลวอาบน้ำมะเฟือง / เชอรี่ไทย เติมน้ำหอมกลิ่นพฤกษาที่ชอบ เช่นกลิ่นดอกปีบ กลิ่นโมก เติมสีจากธรรมชาติ สีเหลืองจากขมิ้น / น้ำผึ้ง สีชมพูจากฝาง สีเขียวจากใบเตย
ครีมอาบน้ำ แตกต่างสบู่เหลว เพียงเติมมุกเพิ่มลงไปเท่านั้น
น้ำยาบ้วนปาก จากน้ำหมักชีวภาพกานพลู รักษาเหงือกและฟัน ได้ดีมาก
ยาสีฟัน จากน้ำหมักชีวภาพกานพลู ใบฝรั่ง ใบสาระแหน่
น้ำยาล้างจาน ใช้หัวแชมพู N70 ราคา 70-80 บาท นำมากวนผสมกับน้ำหมักชีวภาพมะนาว / มะกรูด และเกลือ เมื่อทำเสร็จได้ 20 ลิตร ใช้ได้นานหลายเดือน ประหยัดและขจัดคราบมันได้ดี
น้ำยาซักผ้า ใช้หัวแชมพู N70 นำมากวนผสมกับน้ำหมักชีวภาพสัปปะรด และเกลือ เมื่อทำเสร็จได้ 20 ลิตร ใช้ได้นานหลายเดือน ประหยัด ขจัดคราบฝังแน่นได้ดีมาก และผ้านุ่ม
น้ำยาล้างรถ วิธีทำเช่นเดียวกับน้ำยาล้างจาน เพียงเปลี่ยนตัวพระเอก เป็นใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีความเข้มข้นน้อย ๆ ก็พอ จะได้ไม่กังวลว่าจะกัดสีรถ และเพิ่มผงฟอง ให้รู้สึกว่ามีฟองมากๆ
น้ำยาล้างห้องน้ำ วิธีทำเช่นเดียวกับน้ำยาล้างรถ เพียงเปลี่ยนตัวพระเอก เป็นใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีความเข้มข้นสูงสุด จะได้ขจัดคราบสกปรกฝังแน่นได้หมดจน แบบไม่ต้องออกแรง
น้ำยาเช็ดกระจก น้ำหมักชีวภาพผสมกับน้ำด่าง
อาทิเช่น ยาสระผมอัญชัญ / มะกรูด / ว่านหางจระเข้ / ย่านาง
สบู่เหลวอาบน้ำมะเฟือง / เชอรี่ไทย เติมน้ำหอมกลิ่นพฤกษาที่ชอบ เช่นกลิ่นดอกปีบ กลิ่นโมก เติมสีจากธรรมชาติ สีเหลืองจากขมิ้น / น้ำผึ้ง สีชมพูจากฝาง สีเขียวจากใบเตย
ครีมอาบน้ำ แตกต่างสบู่เหลว เพียงเติมมุกเพิ่มลงไปเท่านั้น
น้ำยาบ้วนปาก จากน้ำหมักชีวภาพกานพลู รักษาเหงือกและฟัน ได้ดีมาก
ยาสีฟัน จากน้ำหมักชีวภาพกานพลู ใบฝรั่ง ใบสาระแหน่
น้ำยาล้างจาน ใช้หัวแชมพู N70 ราคา 70-80 บาท นำมากวนผสมกับน้ำหมักชีวภาพมะนาว / มะกรูด และเกลือ เมื่อทำเสร็จได้ 20 ลิตร ใช้ได้นานหลายเดือน ประหยัดและขจัดคราบมันได้ดี
น้ำยาซักผ้า ใช้หัวแชมพู N70 นำมากวนผสมกับน้ำหมักชีวภาพสัปปะรด และเกลือ เมื่อทำเสร็จได้ 20 ลิตร ใช้ได้นานหลายเดือน ประหยัด ขจัดคราบฝังแน่นได้ดีมาก และผ้านุ่ม
น้ำยาล้างรถ วิธีทำเช่นเดียวกับน้ำยาล้างจาน เพียงเปลี่ยนตัวพระเอก เป็นใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีความเข้มข้นน้อย ๆ ก็พอ จะได้ไม่กังวลว่าจะกัดสีรถ และเพิ่มผงฟอง ให้รู้สึกว่ามีฟองมากๆ
น้ำยาล้างห้องน้ำ วิธีทำเช่นเดียวกับน้ำยาล้างรถ เพียงเปลี่ยนตัวพระเอก เป็นใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีความเข้มข้นสูงสุด จะได้ขจัดคราบสกปรกฝังแน่นได้หมดจน แบบไม่ต้องออกแรง
น้ำยาเช็ดกระจก น้ำหมักชีวภาพผสมกับน้ำด่าง
4. พยายามผลิตอาหารเอง โดยการปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง (ปลูกทุกอย่างมี่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก) และแบ่งปัน บ้างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประโยชน์และความสุข
จะเริ่มจากการปลูกสิ่งที่มีอยู่ เมล็ดพันธ์แท้ที่เก็บสะสมมา โดยไม่ใช้เงินซื้อเมล็ดพันธ์เทียม และไม่ลงทุนซื้อปุ๋ย ไม่ซื้อฮอร์โมนเร่งโต ไม่ซื้อยาฆ่าแมลง
จะปลูกต้นขี้เหล็ก มะม่วง เพื่อให้ร่มเงาและคอยเป็นพี่เลี้ยงให้พืชสวนครัว ปลูกบนดิน คือ มะละกอ กล้วย กระเจี๊ยบ เชอรี่ไทย มะม่วงหาวมะนาวโห่ ตะไคร้ และปลูกพืชสมุนไพรใช้เป็นยาไว้ใต้ดิน คือพวกขิง ข่า กระชาย แก่นตะวัน
จะเริ่มจากการปลูกสิ่งที่มีอยู่ เมล็ดพันธ์แท้ที่เก็บสะสมมา โดยไม่ใช้เงินซื้อเมล็ดพันธ์เทียม และไม่ลงทุนซื้อปุ๋ย ไม่ซื้อฮอร์โมนเร่งโต ไม่ซื้อยาฆ่าแมลง
จะปลูกต้นขี้เหล็ก มะม่วง เพื่อให้ร่มเงาและคอยเป็นพี่เลี้ยงให้พืชสวนครัว ปลูกบนดิน คือ มะละกอ กล้วย กระเจี๊ยบ เชอรี่ไทย มะม่วงหาวมะนาวโห่ ตะไคร้ และปลูกพืชสมุนไพรใช้เป็นยาไว้ใต้ดิน คือพวกขิง ข่า กระชาย แก่นตะวัน
5. เปิดใจเรียนรู้และใช้เวลาศึกษาหาความรู้เพื่อความเข้าใจเรื่องน้ำหมักชีวภาพ (จุลินทรีย์คือสิ่งมีชีวิตแรกที่เกิดมาบนโลกมนุษย์) ซึ่งในอนาคตจะเป็นพระเอกตัวจริงของทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสรรพสิ่ง เพื่อการดำเนินชีวิตแบบพึงพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง และมีภูมิคุ้มกันโรค และอยู่กับโลกนี้ได้อย่างสมดุลย์ น้ำหมักชีวภาพ หรือน้ำสกัดชีวภาพ หรือจุลลินทรีย์ หรือ EM จะเป็นคำตอบสุดท้ายในเรื่องยารักษาโรคสำหรับคน สัตว์ และยังเป็นยารักษาโลก รักษาดิน น้ำ ป่า อากาศ รวมใช้เป็นหัวเชื้อในการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างน้ำหมักชีวภาพที่ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน ยันเข้านอน
- ตื่นนอนมาก็อมน้ำยาบ้วนปากจากน้ำหมักชีวภาพกานพลู
- ก่อนเข้าห้องน้ำก็ดื่มน้ำหมักชีวภาพขมิ้นเพื่อช่วยระบาย
- ระหว่างเข้าครัว ใช้น้ำหมักชีวภาพผลไม้รสหวาน อมเปรี้ยว เพื่อล้างสารเคมีตกค้าง ยาฆ่าแมลง วัตถุกันเสีย ฟอร์มาลีน สารเร่งเนื้อแดง เช่นมะเฟือง แอปเปิ้ล ล้างผัก ผลไม้ เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อไก่ อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก
- ก่อนทานอาหารเช้าดื่มน้ำหมักชีวภาพผลไม้รสเปรี้ยวเพื่อเรียกน้ำย่อย
- หลังทานอาหาร ดื่มน้ำหมักชีวภาพสมุนไพรรสขม รสฝาด เพื่อช่วยย่อยอาหาร
- รดน้ำต้นไม้ ด้วยน้ำหมักชีวภาพน้ำหวานพ่อ น้ำหวานแม่ ซึ่งทำได้ง่ายมาก ลงทุนเพียงกากน้ำตาล หมักกับพืชผักผลไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น 1 เดือนขึ้นไปก็ผสมน้ำรดต้นไม้ได้แล้ว
- บำรุงดอกผล ด้วยน้ำหมักชีวภาพฮอร์โมนไข่
- ไล่แมลงศัตรูพืช ด้วยน้ำหมักชีวภาพจากสมุนไพรกลิ่นฉุน รสชาดเผ็ดร้อน เช่น พริก ขิง กระชาย กระเพรา และอื่นๆ อีกมากมาย
- บำบัดน้ำเสีย ด้วยการน้ำหมักชีวภาพจากพืชผักผลไม้ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น และหาได้ง่ายๆ วิธีทำเช่นเดียวกันกับ สูตรรดน้ำต้นไม้
- รักษาแหล่งน้ำ ลำคลอง หนอง บึง บ่อปลา บ่อกุ้ง ด้วยการทำ EM Ball โดยใช้น้ำหมักชีวภาพจากพืชผักรสจืด ผสมกับรำละเอียด 1 ส่วน รำหยาบ 1 ส่วน ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และกากน้ำตาล 1 ส่วน หมายเหตุ ถ้าใช้ดินเลนดีมาก
- เจ็บคอ ไอ เป็นไข้หวัด ดื่มน้ำหมักชีวภาพมะขามป้อม
- ก่อนเข้าห้องน้ำก็ดื่มน้ำหมักชีวภาพขมิ้นเพื่อช่วยระบาย
- ระหว่างเข้าครัว ใช้น้ำหมักชีวภาพผลไม้รสหวาน อมเปรี้ยว เพื่อล้างสารเคมีตกค้าง ยาฆ่าแมลง วัตถุกันเสีย ฟอร์มาลีน สารเร่งเนื้อแดง เช่นมะเฟือง แอปเปิ้ล ล้างผัก ผลไม้ เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อไก่ อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก
- ก่อนทานอาหารเช้าดื่มน้ำหมักชีวภาพผลไม้รสเปรี้ยวเพื่อเรียกน้ำย่อย
- หลังทานอาหาร ดื่มน้ำหมักชีวภาพสมุนไพรรสขม รสฝาด เพื่อช่วยย่อยอาหาร
- รดน้ำต้นไม้ ด้วยน้ำหมักชีวภาพน้ำหวานพ่อ น้ำหวานแม่ ซึ่งทำได้ง่ายมาก ลงทุนเพียงกากน้ำตาล หมักกับพืชผักผลไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น 1 เดือนขึ้นไปก็ผสมน้ำรดต้นไม้ได้แล้ว
- บำรุงดอกผล ด้วยน้ำหมักชีวภาพฮอร์โมนไข่
- ไล่แมลงศัตรูพืช ด้วยน้ำหมักชีวภาพจากสมุนไพรกลิ่นฉุน รสชาดเผ็ดร้อน เช่น พริก ขิง กระชาย กระเพรา และอื่นๆ อีกมากมาย
- บำบัดน้ำเสีย ด้วยการน้ำหมักชีวภาพจากพืชผักผลไม้ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น และหาได้ง่ายๆ วิธีทำเช่นเดียวกันกับ สูตรรดน้ำต้นไม้
- รักษาแหล่งน้ำ ลำคลอง หนอง บึง บ่อปลา บ่อกุ้ง ด้วยการทำ EM Ball โดยใช้น้ำหมักชีวภาพจากพืชผักรสจืด ผสมกับรำละเอียด 1 ส่วน รำหยาบ 1 ส่วน ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และกากน้ำตาล 1 ส่วน หมายเหตุ ถ้าใช้ดินเลนดีมาก
- เจ็บคอ ไอ เป็นไข้หวัด ดื่มน้ำหมักชีวภาพมะขามป้อม
6. กินของไทย ใช้ของไทย ภูมิใจในความเป็นไทย มีความสำนึกรักบ้านเกิด
7. ลดขยะ แยกขยะ หมักขยะ เพื่อลดมลพิษ ลดโลกร้อน
8. ดูแลแม่ผู้ให้กำเนิด(แม่) แม่ธรณี(ดิน) แม่คงคา(น้ำ) แม่โพสพ(ข้าว) โดยการไม่ทำให้ดินร้อน ไม่ทำแม่น้ำเน่าเสียโดยการทิ้งขยะและสารเคมี ไม่ฉีดยาฆ่าแมลงลงในแปลงข้าว
9. ส่งเสริมและและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน เรียนรู้คุณค่าและพีงพอใจในตนเอง เรียนรู้จิตวิญญาณที่มีความเชื่อมั่นและศรัทธาที่เกิดจากภายในใจตนเอง ไม่ตามแฟชั่น ไม่ตามสังคมบริโภคนิยม
ดั่งกลอนบทนี้ ขอจงจำไว้ว่า...
ดั่งกลอนบทนี้ ขอจงจำไว้ว่า...
จะเดินหน้าต่อไปอย่างไรเล่า ถ้าเจ้าไม่มองก้าวที่ผ่าน
สิ่งใดดีที่สั่งสมมาเนิ่นนาน อยาให้พัดผ่านเลยไปดังสายลม
สิ่งใดดีที่สั่งสมมาเนิ่นนาน อยาให้พัดผ่านเลยไปดังสายลม
ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาของดีจากปู่ย่า
สืบให้ลูก ส่งให้หลาน แต่นานมา จงรักษาอย่าให้สิ้นจากถิ่นไทย
(นิรนาม)
สืบให้ลูก ส่งให้หลาน แต่นานมา จงรักษาอย่าให้สิ้นจากถิ่นไทย
(นิรนาม)
10. เรียนรู้ธรรมชาติ เรียนรู้ปรัชญาการใช้ชีวิตแบบพึ่งตนเองและแบ่งปันผู้อื่น มีความคิด ความเข้าใจว่า ความจริง ความดี ความงาม คือสิ่งเดียวกัน (อะไรถ้าเป็นของจริงย่อมดี ย่อมงาม)
คงเป็นเพียงตัวอย่างการพึ่งพาตนเองเล็กๆ น้อยๆ จากนี้ต่อไปถ้าไม่หัดพึ่งตนเองไว้บ้าง ชีวิตคงอยู่ยากขึ้น สังเกตได้จาก น้ำดื่มต้องซื้อกิน และดื่มทุกครั้งต้องมีขยะ (จากอดีตดื่มน้ำฝนเย็นชื่นใจ
ไม่ต้องใส่น้ำแข็ง) และ ณ เวลานี้อากาศร้อนขึ้น ร้อนขึ้น ทุกวัน จนพัดลมเป่าออกมาเป็นลมร้อน อยู่ลำบากมากถ้าไม่ติดแอร์ ส่งผลต่อการใช้ปริมาณไฟฟ้ามากขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นน้ำมันลิตรละร้อยบาท เมื่อถึงเวลานั้นน้ำมันไบโอดีเซลจากปาล์มจะเป็นทางเลือกแรก ผู้คนจะหันกลับมาขี่ม้า พายเรือ ถีบจักรยาน
ไม่ต้องใส่น้ำแข็ง) และ ณ เวลานี้อากาศร้อนขึ้น ร้อนขึ้น ทุกวัน จนพัดลมเป่าออกมาเป็นลมร้อน อยู่ลำบากมากถ้าไม่ติดแอร์ ส่งผลต่อการใช้ปริมาณไฟฟ้ามากขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นน้ำมันลิตรละร้อยบาท เมื่อถึงเวลานั้นน้ำมันไบโอดีเซลจากปาล์มจะเป็นทางเลือกแรก ผู้คนจะหันกลับมาขี่ม้า พายเรือ ถีบจักรยาน
จากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ทำให้รู้และเข้าใจว่าโลกเปลี่ยนไป โลกร้อนขึ้น ภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น โรคติดต่อร้ายแรง ความขัดแย้ง ความเกียดชัง การแบ่งแยก ของผู้คน / กลุ่มคน อาชญากรรม การก่อการร้าย ความไม่มั่นคงปลอดภัยในชีวิต และทัพย์สิน มนุษย์อดอยากแก่งแย่งอาหาร แก่งแย่งทรัพยากร
จากการอบรม ศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ...พอจะสรุปประเด็นและเผยแพร่ต่อได้ว่า...
จากการอบรม ศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ...พอจะสรุปประเด็นและเผยแพร่ต่อได้ว่า...
ในอนาคต อันใกล้นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพื่อให้มนุษยชาติผ่านพ้นไปได้ คงต้องเรียนรู้วิชาพึ่งตนเอง เพื่อป้องกันตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติให้อยู่รอด ปลอดภัย กันต่อไป
บทความโดย ปิติพงศ์ อ่อนสำลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น